วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กองทุนรวมของการลงทุนของ RMF LTE ETF คืออะไร

ข้อ

 RMF
LTF
1
1. RMF คืออะไร?
RMF ย่อมาจากคำว่า Retirement Mutual Fund
หรือเรียกในชื่อไทยว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง (กองทุนรวม หมายถึง
การนำเงินของผู้ลงทุนหลายๆ คนมารวมกัน แล้วมีมืออาชีพ
ซึ่งก็คือ บริษัทจัดการ คอยบริหารจัดการเงินตามนโยบาย
การลงทุนที่กำหนดไว้) ซึ่งมีวัตถุประสงค์พิเศษแตกต่างจาก
กองทุนรวมทั่วไป คือ RMF เป็นเครื่องมือหนึ่งในการ
สะสมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ ที่ทางการให้การสนับสนุน
สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุนเพื่อเป็นแรงจูงใจ
LTF คืออะไร?
LTF ย่อมาจากคำว่า Long Term Equity Fund
หรือเรียกในชื่อไทยว่า กองทุนรวมหุ้นระยะยาว
เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้น โดยทางการสนับสนุน
ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบัน (ซึ่งก็คือ
กองทุนรวม) ที่จะลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์ฯ
การเพิ่มผู้ลงทุนสถาบันดังกล่าวจะช่วยให้ตลาดทุนไทย
มีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทุนใน LTF ที่เป็น
บุคคลธรรมดาจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อเป็น
แรงจูงใจในการลงทุน
2
RMF เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนทุกกลุ่มที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ยังไม่มีสวัสดิการออมเงินเพื่อ
วัยเกษียณ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุน
บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) มารองรับ หรือมี
สวัสดิการดังกล่าวแต่ยังมีกำลังออมเพิ่มมากกว่านั้นได้อีก
LTF เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนทุกกลุ่มที่ต้องการลงทุนในหุ้นระยะยาว
แต่อาจไม่มีความชำนาญเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น
หรือไม่มีเวลาจึงลงทุนผ่านกองทุนรวม ทั้งนี้ ผู้ลงทุน
จะต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุน
และเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาในการลงทุนได้
3
RMF มีนโยบายการลงทุนเป็นอย่างไร?
มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลายเหมือนกองทุนรวม
ทั่วไป ตั้งแต่กองทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ เน้นลงทุนใน
ตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร กองทุนที่มีระดับความเสี่ยง
ปานกลางที่อาจผสมผสานระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้
และตราสารทุน ไปจนถึงกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูง
เน้นลงทุนในตราสารทุน เช่น หุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิ
การซื้อหุ้น (warrant)
LTF มีนโยบายการลงทุนเป็นอย่างไร?
มีนโยบายการลงทุนแบบเดียว คือ ลงทุนในหุ้นที่
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65
ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยอาจเน้นลงทุน
ในหุ้นกลุ่ม SET50 หุ้นตามกลุ่มอุตสาหกรรม หรือลงทุน
ในหุ้นตามที่บริษัทจัดการเห็นควรก็ได้ ขึ้นอยู่กับ
รายละเอียดนโยบายการลงทุนของแต่ละ LTF
4
RMF มีข้อแตกต่างจากกองทุนรวมทั่วๆ ไปอย่างไร?
1. หากลงทุนครบตามเงื่อนไขจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
2. ไม่สามารถโอน จำนำ หรือนำหน่วยลงทุนไปเป็น
    หลักประกันได้
3. ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
LTF มีข้อแตกต่างจากกองทุนรวมทั่วๆ ไปอย่างไร?
1. หากลงทุนครบตามเงื่อนไขจะได้รับสิทธิประโยชน์
    ทางภาษี
2. ไม่สามารถโอน จำนำ หรือนำหน่วยลงทุนไปเป็น
    หลักประกันได้
3. เป็นกองทุนเปิด ซึ่งกำหนดให้ขายคืนหน่วยลงทุน
    ได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง


กองทุนรวม ETF

ถ้าถามว่า กองทุนรวม ETF คืออะไร คำตอบที่ง่ายที่สุด ได้แก่ กองทุนเปิดที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น (Open-ended Equity Fund) และหน่วยลงทุนของกองทุน ETF ยังเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Securities) อีกด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่แล้ว กองทุน ETF จะมีนโยบายการลงทุน โดยมุ่งเน้นให้ได้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียง หรือเทียบเท่าดัชนีที่ใช้อ้างอิง (underlying index) เช่น อิงกับดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น S&P NASDAQ Kodex Nikkei ฯลฯ ซึ่งจะคล้ายกับการลงทุนใน Index Fund เป็นอย่างยิ่ง แต่ กองทุน ETF จะมีข้อได้เปรียบเพิ่มเติมตรงที่มีการคิดค่าธรรมเนียม การจัดการและอื่นๆ ในอัตราที่ต่ำกว่า และการที่กองทุนรวม ETF เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน จะทำให้มีลักษณะการซื้อขายคล้ายกับหุ้นโดยทั่วไปที่ผู้ลงทุนจะทราบราคาซื้อขายได้ตลอดเวลา (real time) มีสภาพคล่องสูง (high liquidity) และสามารถทำรายการซื้อขายผ่าน โบรกเกอร์ได้อย่างสะดวก


ทั้งนี้ กองทุนรวม ETF มักมีสไตล์การลงทุนเชิงอนุรักษ์ หรือ passive management โดยมุ่งหมายให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับกับดัชนีที่ใช้อ้างอิงมากที่สุด หรือที่เรียกในภาษาเทคนิคว่า ทำให้เกิด tracking error น้อยที่สุด ดังนั้น ผู้ลงทุนในกองทุนรวม ETF จึงน่าจะเป็นผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แบบมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และทั่วถึง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อย หรือผู้ลงทุนประเภทสถาบันต่างก็น่าที่จะมีความสนใจลงทุนในกองทุนรวม ETF เหมือนๆกัน


กองทุนรวม ETF เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อประมาณ 13 ปี มาแล้ว จากนั้น ก็เริ่มเข้าสู่ประเทศทางแถบยุโรป และเมื่อราว 4 – 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อนบ้านชาวเอเซียของเรา ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ไต้หวัน สิงคโปร์ ต่างก็มีกองทุนรวม ETF เป็นทางเลือกในการลงทุนด้วยกันทั้งสิ้น คิดเป็นมูลค่ากองทุนรวมกันทั้งโลกสูงถึงประมาณ 487 พันล้านเหรียญสรอ หรือประมาณ 19 ล้านล้านบาททีเดียว



ที่มา : http://www.one-asset.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น